ช็อปอิฟาย

ไฟเบอร์กลาสส่งผลต่อร่างกายมนุษย์อย่างไร?

เนื่องจากเส้นใยแก้วมีความเปราะบาง จึงแตกเป็นชิ้นเล็ก ๆ จากการทดลองระยะยาวที่ดำเนินการโดยองค์การอนามัยโลกและองค์กรอื่น ๆ พบว่าเส้นใยที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางน้อยกว่า 3 ไมครอนและอัตราส่วนภาพมากกว่า 5:1 สามารถสูดดมเข้าไปในปอดของมนุษย์ได้ เส้นใยแก้วที่เราใช้กันทั่วไปมักจะมีเส้นผ่านศูนย์กลางใหญ่กว่า 3 ไมครอน ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องอันตรายต่อปอดมากนัก

การศึกษาการละลายในร่างกายของเส้นใยแก้วแสดงให้เห็นว่ารอยแตกร้าวขนาดเล็กบนพื้นผิวของเส้นใยแก้วระหว่างการแปรรูปจะขยายและลึกขึ้นภายใต้อิทธิพลของน้ำหล่อเลี้ยงปอดที่มีความเป็นด่างอ่อนๆ ส่งผลให้พื้นที่ผิวของเส้นใยแก้วเพิ่มขึ้นและลดความแข็งแรงของเส้นใยแก้ว ส่งผลให้เส้นใยแก้วเสื่อมสภาพเร็วขึ้น การศึกษาแสดงให้เห็นว่าเส้นใยแก้วจะสลายตัวหมดในปอดภายใน 1.2 ถึง 3 เดือน

ไฟเบอร์กลาสส่งผลต่อร่างกายมนุษย์อย่างไร

จากงานวิจัยก่อนหน้านี้ พบว่าการสัมผัสอากาศที่มีเส้นใยแก้วความเข้มข้นสูง (มากกว่า 1 ปีในทั้งสองกรณี) ของหนูและหนูทดลองเป็นระยะเวลานาน (มากกว่า 1 ปีในทั้งสองกรณี) ไม่มีผลกระทบต่อการเกิดพังผืดในปอดหรือการเกิดเนื้องอกอย่างมีนัยสำคัญ และมีเพียงการฝังเส้นใยแก้วเข้าไปในเยื่อหุ้มปอดของสัตว์เท่านั้นที่ตรวจพบการเกิดพังผืดในปอด การสำรวจสุขภาพของเราในกลุ่มคนงานในอุตสาหกรรมเส้นใยแก้วดังกล่าวไม่พบอัตราการเกิดโรคปอดติดเชื้อ มะเร็งปอด หรือพังผืดในปอดเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่พบว่าการทำงานของปอดของคนงานเหล่านี้ลดลงเมื่อเทียบกับประชากรทั่วไป

แม้ว่าเส้นใยแก้วตัวใยแก้วเองไม่เป็นอันตรายต่อชีวิต การสัมผัสโดยตรงกับใยแก้วอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองผิวหนังและดวงตาอย่างรุนแรง และการสูดดมฝุ่นละอองที่มีใยแก้วอาจทำให้โพรงจมูก หลอดลม และลำคอระคายเคือง อาการระคายเคืองมักไม่จำเพาะและเกิดขึ้นชั่วคราว และอาจรวมถึงอาการคัน ไอ หรือหายใจมีเสียงหวีด การสัมผัสใยแก้วในอากาศในปริมาณมากอาจทำให้อาการหอบหืดหรือโรคหลอดลมอักเสบที่มีอยู่เดิมรุนแรงขึ้น โดยทั่วไป อาการที่เกี่ยวข้องจะบรรเทาลงเองเมื่อผู้สัมผัสอยู่ห่างจากแหล่งกำเนิดไฟเบอร์กลาสเป็นระยะเวลาหนึ่ง


เวลาโพสต์: 4 มี.ค. 2567