เส้นใยไฟเบอร์กลาสผลิตจากลูกแก้วหรือเศษแก้ว โดยผ่านกระบวนการหลอมด้วยความร้อนสูง การดึงลวด การม้วน การทอ และกระบวนการอื่นๆ เส้นใยไฟเบอร์กลาสส่วนใหญ่ใช้เป็นวัสดุฉนวนไฟฟ้า วัสดุกรองอุตสาหกรรม วัสดุป้องกันการกัดกร่อน กันความชื้น กันความร้อน กันเสียง และดูดซับแรงกระแทก นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นวัสดุเสริมแรงในการผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกเสริมใยแก้ว เช่น พลาสติกเสริมแรงหรือยิปซัมเสริมแรง การเคลือบใยแก้วด้วยวัสดุอินทรีย์ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น และสามารถใช้ทำผ้าบรรจุภัณฑ์ มุ้งลวด วัสดุบุผนัง ผ้าคลุม เสื้อผ้าป้องกัน และวัสดุฉนวนไฟฟ้าและฉนวนกันเสียง
เส้นใยไฟเบอร์กลาสเป็นวัสดุเสริมแรงที่มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ ลักษณะเหล่านี้ทำให้การใช้ไฟเบอร์กลาสมีมากขึ้นกว่าเส้นใยประเภทอื่น และความเร็วในการพัฒนายังสูงกว่าคุณสมบัติดังต่อไปนี้: (1) ความต้านทานแรงดึงสูง การยืดตัวน้อย (3%) (2) ค่าสัมประสิทธิ์ความยืดหยุ่นสูงและมีความแข็งแกร่งที่ดี (3) ปริมาณการยืดตัวภายในขีดจำกัดความยืดหยุ่นมีขนาดใหญ่และมีความต้านทานแรงดึงสูง ดังนั้นการดูดซับพลังงานกระแทกจึงมีมาก (4) เป็นเส้นใยอนินทรีย์ ซึ่งไม่ติดไฟและมีความทนทานต่อสารเคมีได้ดี (5) การดูดซึมน้ำต่ำ (6) มีเสถียรภาพของขนาดและทนความร้อนได้ดี (7) มีการแปรรูปที่ดีและสามารถผลิตเป็นผลิตภัณฑ์รูปแบบต่างๆ เช่น เส้นใย มัด สักหลาด และผ้าทอ (8) โปร่งใสและแสงผ่านได้ (9) การพัฒนาสารปรับสภาพพื้นผิวที่มีการยึดเกาะที่ดีกับเรซินเสร็จสมบูรณ์แล้ว (10) ราคาถูก (11) ไม่ง่ายที่จะเผาไหม้และสามารถหลอมเป็นลูกปัดแก้วได้ที่อุณหภูมิสูง
เส้นใยไฟเบอร์กลาสแบ่งออกเป็น เส้นใยที่เคลื่อนที่ไปมา, ผ้าที่เคลื่อนที่ไปมา (ผ้าลายตาราง), เส้นใยเสื่อไฟเบอร์กลาส, เส้นใยสับและเส้นใยที่บด, ผ้าไฟเบอร์กลาส, เส้นใยเสริมแรงไฟเบอร์กลาสแบบผสม, เส้นใยเสื่อเปียกไฟเบอร์กลาส
แม้ว่าเส้นใยไฟเบอร์กลาสจะถูกนำมาใช้ในงานก่อสร้างมานานกว่า 20 ปีแล้ว แต่ตราบใดที่ยังมีสนามบิน โรงยิม ห้างสรรพสินค้า ศูนย์รวมความบันเทิง ลานจอดรถ โรงภาพยนตร์ และอาคารอื่นๆ ม่านไฟเบอร์กลาสเคลือบ PE ก็ยังคงถูกนำมาใช้ ในการผลิตเต็นท์ จะใช้ผ้ามุ้งไฟเบอร์กลาสเคลือบ PE เป็นหลังคา ซึ่งแสงแดดสามารถผ่านหลังคาเข้ามาเป็นแหล่งกำเนิดแสงธรรมชาติที่นุ่มนวลได้ การใช้ม่านหน้าต่างไฟเบอร์กลาสเคลือบ PE จะช่วยปรับปรุงคุณภาพและอายุการใช้งานของอาคารได้อย่างมาก
เวลาโพสต์: 20 ก.ย. 2565